top of page
Writer's pictureAdmin

5 รุ่น Coupe ที่น่าเลือกซื้อมาใช้


รถ Coupe คืออะไร?

รถ Coupe หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อเรียกแบบไทยว่า คูเป้ มาจากคำภาษาฝรั่งเศส Coupé มีความหมายว่า ถูกตัด หรือหั่นออกไป เดิมใช้เรียกรถม้าประเภท Berline ที่ตัดส่วนที่นั่งผู้โดยสารแถวแรกออกไป และทำให้ตัวรถมีความยาวน้อยลง ในช่วงแรกเรียกรถประเภทนี้ว่าว่า Berline Coupé แต่ต่อมาถูกตัดถอนเหลือเพียงคำสั้นๆ ว่า Coupé

รถสไตล์ Coupe ในยุคแรกๆ ของการผลิตรถยนต์

เมื่อมีการผลิตรถยนต์ยุคแรกก็มีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากรถม้าแบบ Berline Coupé มากนัก คือมีส่วนด้านหน้าที่ไม่มีหลังคาปิดสำหรับคนขับ และมีส่วนหลังที่มีหลังคาปิดสำหรับผู้โดยสาร โดยเมื่อเวลาผ่านไปรถประเภทนี้เรียกว่า Coupé de Ville ในส่วนรถ Coupé ต่อมาได้กลายเป็นชื่อที่เอาไว้เรียกรถ 2 ประตู มีหลังคาแข็งปิดถาวร และมี 2 ที่นั่ง หรือมี 2 ที่นั่งด้านหลังที่ไม่กว้างขวางนัก และคำว่า Coupé ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกของรถที่มีรูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยว และให้เส้นสายสไตล์สปอร์ตที่มากกว่า

5 รุ่นรถ Coupe ที่น่าซื้อ

หลังจากที่ทำความรู้จักกับรถ Coupe กันไปบ้างแล้ว ต่อมาเรามาดูรุ่นรถ Coupe ทั้ง 5 รุ่นที่น่าซื้อมาขับอวดโฉมโชว์ความเท่ ด้วยเส้นสาย และดีไซน์สุดสปอร์ตกันดีกว่าค่ะ

1. Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line

รถทรง coupe Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line รถสปอร์ตประเภทเครื่องยนต์วางหน้า

Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line เป็นรถสปอร์ตประเภทเครื่องยนต์วางหน้า มาพร้อมกับเส้นสายดีไซน์สปอร์ตที่ดุดันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ชายล่างของกันชนด้านหน้า และสเกิร์ตข้างสีแพลตตินัมเกรย์แบบด้าน ออกแบบใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้าใหม่ดีไซน์แบบรังผึ้ง (honeycomb) สีไทเทเนียมแบล็ก สอดรับกับกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ในรูปแบบของการวิ่งผ่านของกระแสลม ชายล่างของกันชนด้านหลัง (diffuser) ที่ตกแต่งด้วยสีแพลตตินัมเกรย์แบบด้าน

Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line มาพร้อมกับเส้นสายดีไซน์สปอร์ตที่ดุดันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลัง 230 แรงม้าที่ 4,500-6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 6 จังหวะ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ของ Audi ที่เคลมว่าสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในเวลาแค่ 5.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1,335 กิโลกรัม ผสานกับความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ส่งแรงลงพื้นได้โดยไม่มีอาการล้อฟรี วางจำหน่ายในราคา 3,299,000 บาท

2. BMW M2 Coupe’ Edition Black Shadow

BMW M2 Coupe’ Edition Black Shadow รถยนต์ดีไซน์เข้ม มาในมาดดุดัน

รถยนต์พันธุ์ดุที่มาพร้อมกับดีไซน์เส้นสายในสไตล์เข้ม ดุดัน เหมือนมัดกล้ามเนื้อของชายหนุ่มนักกล้าม มาพร้อมรายละเอียดที่โดดเด่นจากกระจังหน้า M kidney grille ลายซี่คู่ และครีบประจำตระกูล M มาในสีดำที่มีความเงาสูง High-gloss black, กระจกมองข้างคาร์บอนไฟเบอร์ และล้ออัลลอย Forged ลาย Y-spoke ขนาด 19 นิ้ว สีดำด้าน มาพร้อมยางคู่หน้า ขนาด 245/35 R19 / ยางคู่หลัง ขนาด 265/35 R19 ด้านท้ายติดตั้งแผงดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่ชายล่างของกันชนท้าย ซึ่งดีไซน์ให้โอบล้อมปลายท่อไอเสีย M double tailpipe ในสีดำ Black chrome ที่ยื่นออกมาจากแนวกันชนอีกข้างละหนึ่งคู่

ตกแต่งโดยใช้สีดำรอบคัน สะดุดตากับความงดงามของเส้นสาย และสีสันในแบบเฉพาะตัวตั้งแต่แแรกเห็น

มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ BMW TwinPower Turbo ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 370 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 465 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 5,560 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ M Dual Clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราทดเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 4.3 วินาที มีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลือง (Eco Sticker) 12.0 กิโลเมตรต่อลิตร เปิดมาตัวในราคา 6,009,000 บาท


3. BMW M850i xDrive Coupe’

รถคูเป้ดีไซน์หรู BMW M850i xDrive Coupe’

BMW M850i xDrive Coupe’ รถคูเป้ดีไซน์หรูจากค่าย BMW มาพร้อมกับมิติตัวถังความยาว 4,851 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,902 มิลลิเมตร ความสูง 1,346 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อที่ 2,822 มิลลิเมตร ให้ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance ที่ 121 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,627 มิลลิเมตร – คู่หลัง 1,642 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวรถ : 1,890 กิโลกรัม

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยชุดตกแต่ง M Aero Dynamics พร้อมขอบหน้าต่างสีดำเงา สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M

มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยชุดตกแต่ง M Aero Dynamics พร้อมขอบหน้าต่างสีดำเงา สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M ติดตั้งระบบไฟหน้า BMW LaserLight ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assistant คาลิปเปอร์เบรกแบบ M Sport ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู Soft-Close function for doors ระบบปลดล็อคประตูอัจฉริยะ Comfort Access กุญแจรีโมทระบบสัมผัส BMW Display Key เสริมความเข้มให้มากขึ้นด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว Y-Spoke แบบสลับสี คู่หน้า 8J x 20” – คู่หลัง 9J x 20” ยาง Runflat Tyre คู่หน้า 245/35 R20 – คู่หลัง 275/30 R20

ขับสนุกได้เต็มที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.4 ลิตร TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า

BMW M850i xDrive Coupe’ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.4 ลิตร TwinPower Turbo (two TwinScroll Turbocharger) พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive เปิดตัวมาในราคา 12,999,000 บาท


4. BMW M2 Coupe’ Competition

BMW M2 Coupe’ Competition รถไซส์เล็ก แต่สมรรถนะไม่เล็กนะคะ

BMW M2 Coupe’ Competition รถไซส์เล็กพริกขี้หนู ให้ขนาดตัวถังกำลังดี แต่แรง และขับสนุกแบบเต็มกำลัง มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ N55 แล้วนำ S55 จาก BMW M3 และ M4 มาใส่แทน เพิ่มสมรรถนะจากเดิมที่ดีอยู่แล้ว ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีก

โดดเด่นด้วยมุมมองด้านหน้าของตัวรถที่ดุดันยิ่งขึ้นด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบสองซี่สีดำเงา

BMW M2 Coupe’ Competition มาพร้อมกับรายละเอียดการดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนไป ทั้งในด้านรูปโฉม และสมรรถนะ ให้มุมมองด้านหน้าของตัวรถที่ดุดันยิ่งขึ้นด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบสองซี่สีดำเงา เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศและการทำงานของเครื่องยนต์ กระโปรงหน้าได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาอากาศพลศาสตร์และเน้นย้ำถึงมิติความกว้างของตัวรถ กระจกข้างแบบก้านคู่ให้ลุคเอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้น รับกับล้ออัลลอยสไตล์ M ขนาด 19 นิ้วสีดำลาย Y-spoke เสริมลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยท่อไอเสียแบบคู่ควบคุมวาล์วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดีไซน์ภายในตัวรถมุ่งเน้นความพรีเมียมและความสะดวกสบายด้วยเบาะที่นั่งสปอร์ตหนังแท้ Dakota แบบใหม่พร้อมที่หนุนหลังปรับไฟฟ้าและที่รองศีรษะในตัว มอบบรรยากาศเร้าใจจากชุดแต่งภายในด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3 ลิตรพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 410 แรงม้า

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3 ลิตรพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 410 แรงม้า ที่ 5,230 – 7,000 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นจาก M2 Coupe ถึง 40 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 465 นิวตันเมตร เป็น 550 นิวตันเมตร ที่ 2,350 – 5,230 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 4.2 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานเข้าจังหวะกับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ พร้อม Drivelogic และระบบระบายความร้อนที่ได้รับการพัฒนาให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ เปิดตัวมาในราคา 6,290,000 บาท


5. Mercedes-Benz GLC 250 Coupe’ 4MATIC

Mercedes-Benz GLC 250 Coupe’ 4MATIC รถคูเป้ 4 ประตู จากค่าย Mercedes-Benz

รถคูเป้ 4 ประตู จากค่าย Mercedes-Benz ให้ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ ติดสัญลักษณ์โลโก้ Mercedes-Benz ขนาดใหญ่ตรงกลาง เส้นสายหลังคา และลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัยเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลัง และสง่างามไปพร้อมกัน ด้านท้ายเพิ่มความแข็งแกร่งดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling ประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว, บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ตแบบ aluminium-look Running boards พร้อมด้วยหลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า เสริมประสิทธภาพการขับขี่ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic

Mercedes-Benz GLC 250 Coupe’ 4MATIC มี 2 รุ่นย่อยให้เลือก คือ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล

ติดตั้งขุมพลังใหม่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังมากสุด 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200 - 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail รหัส OM651 2.1 ลิตร ขนาด 2,143 ซีซี. DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ พร้อม Intercooler กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 83.0 x 99.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.2 : 1 กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 1,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic เหนือกว่าใครด้วยระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz Intelligent Drive เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ผ่านระบบการช่วยเหลือ และระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ที่มีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียว โดยรุ่น Mercedes-Benz GLC 250 Coupe’ 4MATIC เปิดตัวมาในราคา 4,060,000 บาท และรุ่น Mercedes-Benz GLC 250d Coupe’ 4MATIC ราคา 3,990,000 บาท

เป็นอย่างไรบ้างคะกับทั้ง 5 รุ่นรถยนต์ Coupe ที่แนะนำกันในวันนี้ เห็นได้ชัดเจนเลยนะคะว่ารถส เลือกซื้อรถมือสอง BMW ราคาถูกเชิญที่นี่ ไตล์ Coupe นี่ให้ความสปอร์ต และความโฉบเฉี่ยวมากกว่ารถซีดานทั่วไปมากเลยทีเดียว

4,175 views1 comment

1 Comment


I’ve been surfing on the web more than 3 hours today, yet I never found any stunning article like yours. It’s alluringly worth for me. As I would see it, if all web proprietors and bloggers made puzzling substance as you did, the net will be in a general sense more beneficial than at whatever point in late memory.

https://www.worldurbancampaign.org/profile/makauqq-situs-judi-dominoqq-online-uang-asli/profile

Like
bottom of page